อยากมีลูกต้องกินอะไรบํารุงให้ท้องเร็ว ?

คู่รักที่เพิ่งแต่งงาน หรือคู่สมรสใหม่ที่อยากสร้างครอบครัวและอยากมีลูก อาจมีคำถามว่าต้องกินอะไรให้ท้องเร็ว ซึ่งเมื่อพูดถึงอาหารบำรุงมดลูกสำหรับผู้หญิง หลายคนอาจจะนึกถึงเพียงตัวยาบำรุงและอาหารเสริมเท่านั้น แต่ความเป็นจริงแล้ว ยังมีอาหารบำรุงเซลล์ไข่ที่หาได้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งสามารถช่วยบำรุงเซลล์ไข่ได้ดีไม่แพ้กัน อีกทั้งยังตอบโจทย์กับการใช้ชีวิต สำหรับใครที่สงสัยว่าอยากท้องต้องกินอะไร ก็สามารถมาหาคำตอบกันได้ที่นี่

การกินสำคัญสำหรับคนอยากมีลูกอย่างไร ?

สำหรับคู่สมรสที่วางแผนจะมีบุตร การเตรียมความพร้อมของร่างกายผ่านการกินอาหารบํารุงมดลูกที่เหมาะสม เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากการกินอาหารที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม แต่ยังมีอิทธิพลโดยตรงต่อระบบสืบพันธุ์ จึงช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้สำเร็จได้มากขึ้น ตลอดจนช่วยเตรียมร่างกายให้พร้อมเพื่อให้ทารกในครรภ์มีสุขภาพดี

อยากมีลูกต้องกินอะไรบํารุงดี ?

1. ไข่

เป็นอาหารบำรุงมดลูกและรังไข่ ก่อนตั้งครรภ์ที่หาได้ง่าย อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน A, วิตามิน B1, วิตามิน B2, วิตามิน D, วิตามิน E, แคลเซียม, กรดอะมิโน และธาตุเหล็ก ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งผู้ที่วางแผนการตั้งครรภ์ควรจะรับประทานไข่ทุกวัน โดยเฉพาะไข่เป็ด หรือไข่ไก่ วันละ 1 ฟอง เพื่อเพิ่มโปรตีนให้เซลล์ไข่ของคุณผู้หญิงแข็งแรง ใบโตสวย พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ ที่สำคัญไข่ยังเป็นอาหารบำรุงสเปิร์มสำหรับคุณผู้ชายอีกด้วย

2. น้ำเต้าหู้

การดื่มน้ำเต้าหู้ หรือนมถั่วเหลืองทุกวัน ถือว่าช่วยตอบโจทย์สำหรับคำถามที่ว่ามีลูกยาก กินอะไรดี เนื่องจากน้ำเต้าหู้คืออีกหนึ่งเมนูมากประโยชน์ที่จะช่วยบำรุงเซลล์ไข่ในเพศหญิง น้ำเต้าหู้ทำมาจากถั่วเหลืองที่อุดมไปด้วยโปรตีนชั้นดี จึงช่วยเสริมเนื้อเยื่อภายในร่างกายให้เป็นปกติ เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้สูงขึ้นได้

3. งาดำ

ตามปกติการรับประทานงาดำเป็นประจำ วันละ 3-4 ช้อนชา จะมีส่วนช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ซึ่งสำหรับคุณผู้หญิง หรือคู่สมรสที่มองหาวิธีให้ท้องเร็ว งาดำยังเป็นอาหารบำรุงมดลูกและเป็นเหมือนอาหารเสริมบำรุงไข่ให้แข็งแรงพร้อมสำหรับการมีบุตร นอกจากนี้การรับประทานงาดำเป็นประจำระหว่างการตั้งครรภ์ยังส่งผลดีต่อทารกในครรภ์อีกด้วย

4. ผักใบเขียว

การรับประทานผักใบเขียวไม่ต่ำกว่า 400 กรัมทุกวัน มีส่วนช่วยให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะผักคะน้า ผักโขม และบรอกโคลีที่มีวิตามินบำรุงเซลล์ไข่ ช่วยเร่งอัตราการตกไข่ให้เพิ่มมากขึ้น จึงช่วยบำรุงครรภ์ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยเส้นกากใยที่มีประโยชน์ ช่วยให้ขับถ่ายสะดวก เหมาะสำหรับการรับประทานหลังทำอิ๊กซี่ (ICSI) เพื่อลดอาการอืดท้อง หรือท้องผูกหลังการเก็บไข่

5. ข้าวกล้องและขนมปังไม่ขัดสี

เนื่องจากข้าวกล้องและขนมปังไม่ขัดสีมีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ที่มีส่วนช่วยควบคุมระดับของน้ำตาลในเลือดไม่ให้มากเกินไป การรับประทานอาหารประเภทนี้บ่อย ๆ จะช่วยให้ประจำเดือนมาปกติและยังช่วยบำรุงการทำงานของฮอร์โมนสืบพันธุ์ จึงช่วยให้มีลูกได้ง่ายยิ่งขึ้น

มีลูกยาก กินอะไรดี ? เสริมด้วยวิตามินให้ร่างกายพร้อมตั้งครรภ์ ทารกแข็งแรง !

นอกจากการกินอาหารที่มีประโยชน์แล้ว เพื่อตอบคำถามว่าอยากท้องต้องกินอะไรแล้ว การเสริมวิตามินบำรุงก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ และส่งเสริมการพัฒนาของทารกในครรภ์ได้ โดยประโยชน์และวิธีการทำงานของวิตามินแต่ละชนิด ซึ่งถือว่าเป็นอาหารบํารุงมดลูกก่อนตั้งครรภ์ รวมถึงช่วยดูแลทารกในครรภ์ มีดังนี้

• กรดโฟลิก (Folic Acid)

กรดโฟลิก หรือวิตามินบี 9 เป็นวิตามินที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้หญิงที่วางแผนจะตั้งครรภ์ เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการป้องกันความผิดปกติของระบบประสาทในทารก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะหลอดประสาทไม่ปิด (Neural Tube Defects) โดยกรดโฟลิกจะช่วยในการสร้างดีเอ็นเอและการแบ่งเซลล์ ส่งเสริมการพัฒนาของระบบประสาทส่วนกลางของทารกในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ อีกทั้งยังช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงและป้องกันภาวะโลหิตจาง

• วิตามินดี (Vitamin D)

วิตามินดี มีบทบาทสำคัญในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนากระดูกและฟันของทารก นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงของภาวะครรภ์เป็นพิษ

• วิตามินบี 12 (Vitamin B12)

วิตามินบี 12 มีความสำคัญต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและการทำงานของระบบประสาท การขาดวิตามินบี 12 อาจส่งผลต่อการพัฒนาของทารกในครรภ์และเพิ่มความเสี่ยงของภาวะแท้งบุตร เนื่องจากวิตามินบี 12 จะช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง สนับสนุนการทำงานของระบบประสาท อีกทั้งยังมีส่วนร่วมสำคัญในการสร้างดีเอ็นเอ

• วิตามินอี (Vitamin E)

วิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ช่วยลดความเสี่ยงของความผิดปกติทางพันธุกรรม อีกทั้งยังส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดในรก จึงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและการพัฒนาของทารกในครรภ์

• ธาตุเหล็ก (Iron)

แม้ว่าธาตุเหล็กจะไม่ใช่วิตามิน แต่ก็เป็นแร่ธาตุที่สำคัญมากสำหรับผู้หญิงที่วางแผนจะตั้งครรภ์ เนื่องจากธาตุเหล็กจะช่วยในการสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง และส่งเสริมการขนส่งออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย ป้องกันภาวะโลหิตจาง ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในระหว่างการตั้งครรภ์

และนี่คืออาหารที่จะช่วยตอบคำถามว่าอยากมีลูกต้องกินอะไรบํารุงได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งมีทั้งอาหารที่หารับประทานได้ง่าย สามารถกินได้ประจำทุกวัน ช่วยบำรุงไข่และบำรุงมดลูกให้แข็งแรง รวมถึงวิตามินที่ช่วยเสริมบำรุงให้ลูกน้อยเติบโตแข็งแรงในครรภ์ แต่อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารควรทำควบคู่ไปกับการปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อให้ได้แผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและความต้องการเฉพาะบุคคล ถ้าใครต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการมีลูกยาก สามารถนัดปรึกษากับสูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ และทีมนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงตัวอ่อนได้ที่นี่

 

ปรึกษาวางแผนการตั้งครรภ์ได้ที่

m.me/VFertilityCenter หรือ Line : @vfertilitycenter

บทความโดย :

พญ. วนากานต์ สิงหเสนา

สูติ-นรีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธ์

สามารถติดตามแฟนเพจstory ivf – มีลูกยากอยากมีลูก

พูดคุยกับหมอวนากานต์ได้ที่ https://www.facebook.com/Dr.Wanakan/

อ่านบทความสุขภาพ : https://www.v-ivf.com/article/

___________________________

ติดตามความรู้ด้านสุขภาพกับเราได้ที่

Facebook : VFertilityCenter

Line : @vfertilitycenter

Instagram : vfertilitycenter

Hotline : 0829032035

Website : https://www.v-ivf.com

______________________________