เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

เช็กความเสี่ยง อาการช็อกโกแลตซีสต์แบบไหนเข้าข่ายอันตราย ?

ช็อกโกแล็ต ซีสต์

“ช็อกโกแลตซีสต์” เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในผู้หญิงทุกวัย โดยเฉพาะในวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตได้อย่างมาก หากปล่อยทิ้งไว้ อาการต่าง ๆ อาจรุนแรงขึ้นและนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน จนส่งผลข้างเคียงทำให้มีลูกยาก หรือไม่สามารถมีลูกได้

วันนี้ คุณหมอ พญ. วนากานต์ สิงหเสนา จะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับผู้ที่มีภาวะช็อกโกแลตซีสต์ว่าเกิดจากอะไร มีอาการเข้าข่ายอย่างไร พร้อมตอบคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัย ว่าถ้าหากเป็นช็อกโกแลตซีสต์แล้วท้อง จะอันตรายไหม ?

ช็อกโกแลตซีสต์ มีสาเหตุเกิดจากอะไร ?

ช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst) ในทางการแพทย์เรียกว่า “เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่ (Endometriosis)” คือ ภาวะผิดปกติทางร่างกายที่เกิดจากถุงน้ำในรังไข่ เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดลอกเป็นประจำเดือนไหลย้อนกลับไปทางท่อนำไข่เข้าไปในช่องท้องและอุ้งเชิงกราน ทำให้เซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกไปฝังตัวในรังไข่และเจริญกลายเป็นถุงน้ำซึ่งมีลักษณะคล้ายช็อกโกแลตเหลว จึงเรียกว่า “ถุงน้ำช็อกโกแลต” หรือ “ช็อกโกแลตซีสต์”  

อาการช็อกโกแลตซีสต์

อาการของช็อกโกแลตซีสต์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่อาการที่พบบ่อยมีดังนี้ 

  • อาการปวดท้องประจำเดือนมากกว่าปกติ และปวดมากขึ้นทุกเดือน หรือ มีอาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง
  • มีภาวะลำไส้แปรปรวน เช่น อาการท้องอืด ท้องเสีย
  • ปัสสาวะบ่อย บางรายอาจมีอาการปัสสาวะเป็นเลือด
  • มีอาการปวดหลัง บางทีก็ปวดร้าวลงไปถึงบริเวณขา
  • ปวดไมเกรนบ่อย ๆ โดยเฉพาะช่วงก่อนและระหว่างมีประจำเดือน
  • สามารถคลำพบก้อนแข็งบริเวณท้องน้อย ซึ่งอาจอยู่ตรงกลางหรือด้านข้าง เนื่องจากถุงน้ำโตขึ้นจนมีขนาดใหญ่และอยู่ในระยะที่เป็นอันตราย
  • เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์

นอกจากนี้ ช็อกโกแลตซีสต์ ยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการมีบุตรยาก เนื่องจากมีเยื่อบุไปเกาะอยู่บนรังไข่ ทำให้รังไข่มีพื้นที่ในการผลิตไข่และสร้างฮอร์โมนน้อยลง อีกทั้งไข่ที่ผลิตได้ก็ด้อยคุณภาพ และยังมีผังผืดเกิดขึ้นในอุ้งเชิงกรานทำให้ท่อรังไข่คดงอ ส่งผลให้ไข่กับอสุจิที่ผสมกันแล้วมาฝังตัวได้อย่างไม่สมบูรณ์หรืออาจทำให้ท่อนำไข่ตันไม่สามารถเกิดการปฎิสนธิได้เลย

การรักษาช็อกโกแลตซีสต์

การรักษาช็อกโกแลตซีสต์ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ โดยมีวิธีการรักษามีดังนี้

การใช้ยา

การใช้ยาที่มีคุณสมบัติคุมกำเนิด เพื่อบรรเทาอาการปวดและยับยั้งไม่ให้ไข่เจริญเติบโต ทำให้คนไข้ไม่สามารถมีบุตรได้ เนื่องจากโรคนี้อาศัยฮอร์โมนเพศหญิงที่สร้างจากรังไข่ อย่างไรก็ตาม หากคนไข้ต้องการมีบุตร ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์

การผ่าตัด

การผ่าตัดเป็นวิธีที่นิยมอย่างมาก เหมาะสำหรับในกรณีที่ก้อนซีสต์ธรรมดาหรือซีสต์ที่จะพัฒนาไปเป็นมะเร็ง แพทย์จะแนะนำให้ผ่าตัดเพื่อเอาซีสต์ออก โดยทำการผ่าตัดแบบส่องกล้อง ซึ่งเป็นวิธีที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพสูง ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะมีแผลเล็ก เจ็บน้อย และฟื้นตัวได้เร็ว

อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดอาจมีผลข้างเคียงและความเสี่ยง เช่น การดมยาสลบ การสอดกล้องในหน้าท้องที่มีพังผืดเยอะ หรือการเอาซีสต์ออกจากรังไข่แล้วจะทำให้เนื้อที่ดีของรังไข่ที่ติดกับผนังซีสต์ออกไปด้วย ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของรังไข่ ปริมาณฟองไข่ และการโตของไข่ก็อาจจะลดลงตามไปด้วย ซึ่งอาจส่งผลกระทบทำให้มีลูกยาก

เป็นช็อกโกแลตซีสต์แล้วท้อง อันตรายไหม ?

ผู้ที่มีภาวะช็อกโกแลตซีสต์สามารถมีลูกได้ แต่อาจจะมีลูกยากมากกว่าปกติ เนื่องจากเป็นโรคที่เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ทำให้การทำงานของรังไข่ผิดปกติ สำหรับผู้ที่ต้องการมีบุตร ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อวินิจฉัยและวางแผนการรักษาต่อไป

ส่วนผู้ที่เป็นช็อกโกแลตซีสต์และเกิดการตั้งครรภ์ ไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป แม้ว่าจะมีความเสี่ยงบางประการ แต่หากได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ผู้ชำนาญการ การตั้งครรภ์ก็จะสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างปกติ 

การทำ ICSI ช่วยแก้ปัญหาการมีลูกยากจากภาวะช็อกโกแลตซีสต์

วิธีที่ได้ผลมากที่สุดนอกจากการใช้ยาและการผ่าตัด คือการทำ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ที่ช่วยแก้ปัญหาการมีลูกยากจากภาวะต่าง ๆ เช่น อายุมาก เป็นหมัน น้ำเชื้ออ่อน รวมถึงภาวะช็อกโกแลตซีสต์ โดยวิธีนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้ประสบความสำเร็จได้มากขึ้น เนื่องจาก เป็นการฉีดอสุจิเข้าไปในไข่โดยตรง นอกจากนี้ กระบวนการทำอิ๊กซี่ ICSI ยังสามารถช่วยคัดกรองน้ำเชื้อและไข่ที่มีความสมบูรณ์ที่สุดเท่านั้น จึงช่วยเพิ่มโอกาสให้การตั้งครรภ์ประสบความสำเร็จได้ นอกจากนี้การตั้งครรภ์จะมีระดับฮอร์โมนที่สูงเป็นการรักษาภาวะช็อกโกแลตซีสต์อีกวิธีการหนึ่งด้วยนั่นเอง

สำหรับคุณผู้หญิงที่อยากเป็นคุณแม่ และตั้งครรภ์ได้สำเร็จ ที่ V Fertility Center เราพร้อมดูแลทุกก้าวของการมีบุตร ด้วยทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ที่มีประสบการณ์ในการเพาะเลี้ยงตัวอ่อน ทั้งยังได้รับการรับรองจากสมาคมด้านการเจริญพันธุ์และการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนแห่งยุโรป (ESHRE : European Society of Human Reproduction and Embryology) จึงมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัยกับบริการของเรา

 

บทความโดย แพทย์วนากานต์ สิงหเสนา

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ 

ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร V Fertility Center

Hotline : 082-903-2035

Line : @vfertilitycenter(https://lin.ee/riKcYHl)

อ่านบทความสุขภาพ : https://www.v-ivf.com/article/

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.