สำหรับคู่สมรสที่กำลังวางแผนมีบุตร การทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะไข่ไม่ตกเป็นสิ่งจำเป็น เพราะภาวะนี้อาจเป็นอุปสรรคสำคัญในการตั้งครรภ์ได้
ทำความเข้าใจปัญหา ภาวะไข่ไม่ตกคืออะไร ?
ภาวะไข่ไม่ตก คือความผิดปกติของการทำงานของรังไข่ ซึ่งส่งผลให้กระบวนการเติบโตของไข่หยุดชะงัก โดยในภาวะปกติ ร่างกายของผู้หญิงจะผลิตไข่และปล่อยออกมาจากรังไข่ทุกเดือน แต่เมื่อเกิดภาวะไข่ไม่ตก ร่างกายจะสูญเสียกลไกควบคุมการเจริญเติบโตของไข่ ทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือการตกไข่เกิดขึ้นอย่างไม่สม่ำเสมอ เป็นสาเหตุของปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติ หรืออาการขาดประจำเดือน ซึ่งไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อโอกาสในการตั้งครรภ์เท่านั้น แต่ยังอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ในระยะยาว เช่น ความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งของเยื่อบุโพรงมดลูก การเข้าใจและตระหนักถึงภาวะนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้หญิงทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคู่สมรสที่กำลังวางแผนมีบุตร
ไขข้อสงสัย ไข่ไม่ตกเกิดจากอะไร ?
ภาวะไข่ไม่ตกสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ การทำความเข้าใจถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะนี้จะช่วยให้สามารถดูแลสุขภาพและเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งมีสาเหตุดังนี้
- ความผิดปกติของฮอร์โมน การผลิตฮอร์โมนที่ไม่สมดุล โดยเฉพาะฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการตกไข่ เช่น FSH (Follicle Stimulating Hormone) และ LH (Luteinizing Hormone) อาจส่งผลให้เกิดภาวะไข่ไม่ตก
- โรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) เป็นภาวะที่พบบ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งส่งผลให้รังไข่ผลิตฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป ทำให้การตกไข่ผิดปกติ
- ความเครียดและความวิตกกังวล ความเครียดสูงอาจรบกวนการทำงานของระบบฮอร์โมนและส่งผลต่อการตกไข่
- น้ำหนักตัวที่ผิดปกติ ทั้งน้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป สามารถส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบสืบพันธุ์และการตกไข่
- การออกกำลังกายหักโหม การออกกำลังกายอย่างหนัก อาจรบกวนการทำงานของระบบฮอร์โมนและส่งผลให้เกิดภาวะไข่ไม่ตกได้
- โรคของต่อมไทรอยด์ ทั้งภาวะไทรอยด์เป็นพิษและภาวะไทรอยด์ทำงานน้อยสามารถส่งผลต่อการตกไข่ได้
- อายุ เมื่อผู้หญิงมีอายุมากขึ้น โดยเฉพาะหลังอายุ 35 ปี คุณภาพและปริมาณของไข่จะลดลง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะไข่ไม่ตกในที่สุด
สำรวจสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม รู้ได้อย่างไรว่าไข่ไม่ตก ?
การสังเกตอาการและความผิดปกติของร่างกายเป็นสิ่งสำคัญในการระบุภาวะไข่ไม่ตก ซึ่งหลายคนอาจยังสงสัยว่าไข่ไม่ตกมีอาการยังไง ? สำหรับผู้ที่มีภาวะไข่ไม่ตกแต่ละคนนั้น อาจมีอาการที่แตกต่างกันได้หลายรูปแบบ โดยมีสัญญาณเตือนที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษดังนี้
- ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หากสังเกตว่ารอบเดือนมาช้ากว่าปกติ หรือขาดหายไปเป็นเวลานาน อาจเป็นสัญญาณของภาวะไข่ไม่ตก
- ไม่มีอาการบ่งชี้การตกไข่ ในช่วงกลางรอบเดือน อาจไม่รู้สึกถึงอาการที่บ่งบอกว่ามีการตกไข่ เช่น อาการปวดท้องน้อยเล็กน้อย หรือมีตกขาวใส
- ผลตรวจการตกไข่เป็นลบ การใช้ชุดตรวจการตกไข่แบบทำเองที่บ้าน อาจช่วยบ่งชี้ว่ามีการตกไข่หรือไม่ หากผลเป็นลบต่อเนื่องกันหลายรอบ อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงภาวะไข่ไม่ตกก็เป็นได้
- พยายามมีบุตรไม่สำเร็จ หากพยายามตั้งครรภ์มาเป็นเวลานานกว่า 1 ปี แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ หรือผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปี และพยายามตั้งครรภ์มาแล้วกว่า 6 เดือนแต่ยังไม่เป็นผล อาจเป็นสัญญาณของปัญหาไข่ไม่ตกเช่นกัน
- อาการของภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล เช่น มีสิวเพิ่มขึ้น ผมร่วง หรือมีขนขึ้นตามใบหน้าและลำตัว อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติของฮอร์โมนที่กำลังส่งผลกระทบต่อการตกไข่ได้
คุณผู้หญิงควรหมั่นสังเกตความผิดปกติอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่ามีโอกาสเกิดภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรังและเป็นปัญหาต่อการมีบุตรโดยธรรมชาติ ควรเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ เพื่อวินิจฉัยอาการและเร่งทำการรักษาที่เหมาะสม โดยแนวทางการรักษาเบื้องต้น จะมีทั้งการทานยากระตุ้นไข่และการฉีดยากระตุ้นไข่ ร่วมกับการแช่แข็งตัวอ่อนเพื่อรอการย้ายกลับเข้าโพรงมดลูกหลังจากร่างกายกลับเข้าสู่สภาวะปกติในรอบประจำเดือนธรรมชาติ ซึ่งเป็นวิธีการทำเด็กหลอดแก้วที่ควบคุมสภาวะฮอร์โมนในร่างกายไปด้วย รวมถึงวิธีการเก็บไข่อ่อนที่ไม่ได้ผ่านการกระตุ้นไข่ออกมาทางช่องคลอด และมาเลี้ยงให้โตในสภาวะที่เหมาะสม หลังจากนั้นนำมาผสมกับอสุจิด้วยวิธีอิ๊กซี่เพื่อเป็นตัวอ่อน และย้ายกลับเข้ามดลูกแบบเดียวกับการย้ายตัวอ่อนหลังการทำเด็กหลอดแก้ว ซึ่งควรได้รับคำแนะนำและการรักษาจากแพทย์เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และทารกในครรภ์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่
ติดต่อสอบถาม หรือนัดหมายแพทย์เข้ารับบริการ ได้ที่
VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
- Hotline : 082-903-2035
- Line : @vfccenter (bit.ly/3HVkyCO)
- อ่านบทความสุขภาพ : https://www.v-ivf.com/article/
ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวชวิทยาและเวชศาตร์การเจริญพันธ์ุ
No Comments
Sorry, the comment form is closed at this time.