เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

ท่อนำไข่ตัน หรือท่อรังไข่ตันมีลูกได้ไหม มีวิธีรักษาอย่างไร ?

วินิจฉัยภาวะท่อนำไข่ตัน เพื่อปรึกษาหาวิธีรักษา

การมีลูกนับว่าเป็นหนึ่งในความต้องการของคู่สมรสหลาย ๆ คู่ แต่บางคู่กลับต้องเจอกับภาวะมีบุตรยาก ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในสาเหตุที่คู่รักหลายคู่ต้องพบเจอก็คือ การเกิดภาวะท่อนำไข่ตัน

 

ท่อนำไข่ตัน คืออะไร?

ท่อนำไข่มีหน้าที่สำคัญในระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง ที่เป็นท่อเชื่อมต่อระหว่างรังไข่กับมดลูก โดยทำหน้าที่เป็นทางผ่านให้ไข่ไปปฏิสนธิกับอสุจิ ดังนั้น หากท่อนำไข่ตัน ไข่ที่ตกออกมาจากรังไข่ จะไม่สามารถผ่านเข้าทางปลายท่อนำไข่ เพื่อไปเจอกับอสุจิ จึงไม่สามารถเกิดการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนขึ้นมาได้

สาเหตุของการเกิดภาวะท่อนำไข่ตัน อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น

  • การติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ เช่น โรคหนองในเทียม โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
  • การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน หรือปีกมดลูกอักเสบ
  • การผ่าตัดในช่องท้อง เช่น การผ่าตัดไส้ติ่ง การผ่าตัดเนื้องอกมดลูก
  • โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
  • พังผืดในอุ้งเชิงกราน
  • การทำหมัน
  • เคยมีประวัติการแท้ง
  • โรคทางพันธุกรรมบางชนิด

ซึ่งท่อนำไข่ตัน เป็นภาวะที่ส่งผลต่อการมีบุตรยาก การรู้เท่าทันสาเหตุ อาการ และวิธีการรักษา จะช่วยให้คู่รักที่เผชิญกับภาวะนี้สามารถตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมและเพิ่มโอกาสในการมีบุตรได้

 

ท่อนำไข่ตันมีประจำเดือนไหม ?

ผู้ที่มีภาวะท่อนำไข่ตันยังคงมีประจำเดือนตามปกติ เนื่องจากการมีประจำเดือนเกี่ยวข้องกับการทำงานของรังไข่และมดลูก ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพของท่อนำไข่โดยตรง

 

ท่อนำไข่ตันมีอาการอย่างไร รู้ได้อย่างไรว่าเป็นท่อนำไข่ตัน ?

ภาวะท่อนำไข่ตันอาจไม่แสดงอาการออกมามากนัก โดยอาการเบื้องต้นของภาวะท่อนำไข่ตันอาจมีเพียงแค่อาการปวดท้องน้อย หรือส่วนใหญ่ไม่มีอาการเลย โดยแพทย์อาจจะทำการตรวจสอบด้วยวิธีการเหล่านี้

การซักประวัติ

เริ่มจากแพทย์จะทำการซักประวัติอย่างละเอียดเกี่ยวกับประวัติการติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ ประวัติการผ่าตัด ประวัติการทำแท้ง ประวัติการใช้ยา รวมถึงอาการที่แสดง พร้อมทั้งตรวจอัลตราซาวนด์ซึ่งอาจจะเห็นท่อนำไข่ตันได้ในกรณีที่มีน้ำขังอยู่ในท่อนำไข่ เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดและพิจารณาหาข้อสรุป

การฉีดสีเพื่อดูท่อนำไข่ หรือ Hysterosalpingography (HSG)

การฉีดสีเพื่อดูท่อนำไข่ หรือ Hysterosalpingography (HSG) เป็นการตรวจโพรงมดลูกและปีกมดลูกโดยใช้รังสีเอกซ์และสารทึบแสงฉีดเข้าไปในโพรงมดลูก เพื่อดูว่าสารทึบแสงสามารถไหลผ่านท่อนำไข่ได้หรือไม่ โดยจะทำการตรวจในช่วงหลังหมดประจำเดือน ก่อนถึงวันไข่ตก โดยแพทย์จะให้ผู้ป่วยขึ้นขาหยั่งและสอดเครื่องมือเพื่อเปิดช่องคลอด จากนั้นทายาทำความสะอาดบริเวณปากมดลูก ก่อนจะสอดท่อเล็ก ๆ ผ่านปากมดลูกเข้าไปในโพรงมดลูกเพื่อฉีดสารทึบแสงเข้าไป จากนั้นทำการถ่ายภาพรังสีเอกซ์ เพื่อดูการไหลของสารทึบแสง หากท่อนำไข่อุดตัน สารทึบแสงจะไม่สามารถไหลผ่านท่อนำไข่ไปยังรังไข่ได้

การผ่าตัดส่องกล้อง (Laparoscopy)

การผ่าตัดส่องกล้อง หรือ Laparoscopy เป็นอีกหนึ่งวิธีที่แพทย์จะใช้ในการวินิจฉัยและประเมินสภาพของท่อนำไข่ โดยวิธีนี้จะให้ข้อมูลที่แม่นยำและละเอียดมากกว่าการตรวจด้วยวิธีอื่น ๆ โดยแพทย์จะทำการวางยาสลบแบบทั่วไปให้กับผู้ป่วย จากนั้นจะทำการเจาะรูเล็ก ๆ บริเวณหน้าท้อง 2-3 รู และสอดกล้องขนาดเล็กผ่านรูเจาะเข้าไปในช่องท้อง เพื่อตรวจดูสภาพของอวัยวะภายใน รวมถึงท่อนำไข่ โดยแพทย์อาจฉีดสีย้อมผ่านปากมดลูกเข้าไปในโพรงมดลูกและท่อนำไข่ เพื่อดูการไหลผ่านของสีย้อม ซึ่งจะช่วยในการประเมินการอุดตันของท่อนำไข่ได้อย่างชัดเจน

ตรวจท่อนำไข่ตัน ด้วยการฉีดสีเพื่อดูท่อนำไข่

หากเป็นท่อรังไข่ตันมีวิธีรักษาให้สามารถมีลูกได้อย่างไร ?

ถึงแม้ว่าภาวะท่อนำไข่ตันจะส่งผลต่อการมีลูก แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน ก็สามารถช่วยรักษาให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ ด้วยวิธีดังนี้

การผ่าตัดท่อนำไข่ผ่านการส่องกล้อง

เป็นการผ่าตัดแบบ Minimally Invasive หรือการผ่าตัดแผลเล็กที่ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนาน โดยแพทย์ทำการผ่าตัดท่อนำไข่ เพื่อเอาพังผืดออก หรือทำการเปิดท่อนำไข่ ซึ่งผู้ป่วยบางรายอาจได้รับการพิจารณาให้ทำร่วมกับการกระตุ้นให้ไข่ตก เหมาะสำหรับผู้ที่มีท่อนำไข่ตันเพียงเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดท่อนำไข่สามารถเพิ่มโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์โดยธรรมชาติได้ แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดการท้องนอกมดลูกด้วยเช่นกัน

การทําอิ๊กซี่ (ICSI)

สำหรับผู้ที่มีภาวะท่อรังไข่ตันรุนแรง อาจต้องใช้วิธีรักษาด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยในการเจริญพันธุ์ อย่างการทำเด็กหลอดแก้ว หรือ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) โดยแพทย์จะคัดอสุจิที่แข็งแรงมากที่สุด มาเจาะและฉีดเข้าไปในเนื้อไข่ที่มีความสมบูรณ์ที่สุดของฝ่ายหญิงโดยตรง จากนั้นสังเกตการณ์จนไข่และอสุจิเกิดการปฏิสนธิกันจนกลายเป็นตัวอ่อน จากนั้นจึงจะนำกลับเข้าไปในมดลูกอีกครั้งเพื่อให้เกิดกระบวนการตั้งครรภ์ต่อไป ซึ่งการทำอิ๊กซี่นี้ยังสามารถใช้รักษาภาวะมีบุตรยากจากสาเหตุอื่น ๆ ได้อีกด้วย

การทำ ICSI เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและมีอัตราความสำเร็จสูงที่สุดในการรักษาภาวะท่อนำไข่ตัน โดยเฉพาะในกรณีที่ภาวะท่อนำไข่ตันมีความรุนแรงมาก

 

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร : ทางเลือกสำหรับคู่สมรสที่ต้องการมีบุตร

อย่าปล่อยให้ภาวะท่อนำไข่ตันเป็นอุปสรรคในการสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ ให้ VFC เป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความฝันของคุณ หากกังวลกับภาวะท่อนําไข่ตัน ว่าจะทำให้มีลูกได้ไหม ? หรือกำลังเจอกับภาวะมีบุตรยาก สามารถเข้ามารับคำแนะนำการทำอิ๊กซี่ ที่ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร ที่ให้บริการครอบคลุม ทั้งให้คำปรึกษา ตรวจวินิจฉัยและให้การรักษา ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานระดับสากล เพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้ประสบความสำเร็จ พร้อมสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์แบบได้อย่างที่ตั้งใจ !

 

บทความโดย แพทย์ วรวัฒน์ ศิริปุณย์

 

ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่
VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
Hotline : 082-903-2035
Line : @vfccenter

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.