เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

รู้ก่อนวางแผนตั้งครรภ์ กินยาคุมมา 10 ปี จะยังท้องได้ไหม ?

หนึ่งในความเชื่อเกี่ยวกับการมีลูกยากที่เป็นประเด็นให้ถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน คือเรื่องเกี่ยวกับยาคุมกำเนิด ว่าการกินยาคุมนาน ๆ จะทำให้มีลูกยากไหม ? หรือใครที่กินยาคุมมาเกิน 10 ปี จะท้องได้ไหม ? รวมถึงความเชื่อที่ว่า การทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน ผลของยาจะทำให้มดลูกแห้ง ผนังมดลูกบาง และส่งผลให้มีลูกได้ยากกว่าคนทั่วไป บทความนี้มีคำตอบเกี่ยวกับเรื่องการกินยาคุมมาตอบให้ครบรอบด้าน  

ทำความรู้จักยาคุมกำเนิด

ก่อนจะไปสู่คำถามว่าการกินยาคุมนาน ๆ จะทำให้มีลูกยากไหม ? หรือหากกินยาคุมฉุกเฉินบ่อย จะทำให้ท้องยากหรือเปล่า ? ต้องมาทำความรู้จักกับประเภทของยาคุมกำเนิดเสียก่อน เนื่องจากยาคุมกำเนิดแต่ละประเภทจะส่งผลต่อร่างกายที่แตกต่างกัน

ยาคุมแบบเม็ด

ยาคุมแบบเม็ด จะใช้รับประทานต่อเนื่องตามที่กำหนดเพื่อคุมกำเนิด ซึ่งจะหมดฤทธิ์เร็ว บางครั้งจึงเห็นว่าผู้หญิงหลายคนที่ลืมกินยา หรือหยุดกินยาคุมก็อาจจะตั้งครรภ์ได้

ยาคุมฉุกเฉิน

ยาคุมฉุกเฉินจะคุมกำเนิดไม่ค่อยได้ผลมากนักเพราะใช้แบบฉุกเฉินเพียงแค่ 2 เม็ด แต่ความที่เป็นฮอร์โมนขนาดสูงจะส่งผลข้างเคียงที่ค่อนข้างรุนแรง ทำให้ประจำเดือนเลื่อน ประจำเดือนมากะปริดกะปรอย ไข่ตกผิดปกติหลังจากใช้ยาคุมฉุกเฉิน รวมถึงอาจเสี่ยงที่ทำให้เกิดท้องนอกมดลูก ซึ่งค่อนข้างอันตราย แต่ไม่มีผลต่อการมีลูกยากเท่าไรนัก

ยาคุมแบบฉีด

ยากลุ่มนี้อาจจะมีปัญหาได้มากกว่า เพราะยาฉีดออกฤทธิ์ค้างนาน ปกติยาคุมแบบฉีดจะมีฤทธิ์กดฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นถ้าฉีดมาสักระยะ 2-3 ปีขึ้นไปแล้วหยุดฉีดไป อาจทำให้บางคนประจำเดือนยังไม่มา เพราะไข่จะยังไม่ตกในทันที จึงต้องรอจนกว่าไข่ตกและมีประจำเดือนตามปกติเอง เพราะฉะนั้น คู่ที่วางแผนจะมีลูกแล้วใช้วิธีฉีดยาคุมกำเนิดอยู่ อาจจะต้องมีการวางแผนล่วงหน้าสัก 1 ปี เพื่อวางแผนการมีบุตรต่อไป  

ยาคุมกำเนิดแบบฝัง (ที่ใต้ท้องแขน)

ยาคุมประเภทนี้มีทั้งแบบเก่าที่จะฝัง 6 แท่ง อยู่ได้ 3 ปี ซึ่งจะมีฤทธิ์คล้ายยาฉีด แต่ถ้าใช้ต่อเนื่องนาน ๆ อาจต้องใช้เวลา 6-12 เดือนกว่าจะกลับมาไข่ตกและมีประจำเดือนตามปกติเอง แล้วถึงจะตั้งครรภ์ได้ ส่วนยาฝังแบบใหม่ คือฝัง 1 แท่งอยู่ได้ 3 ปี ฮอร์โมนออกฤทธิ์เร็ว พอเอายาออกสัก 2-3 เดือนก็มีโอกาสท้องแล้ว เพราะกลับมาเป็นปกติไข่ตกเองได้ในระยะเวลาไม่นาน

ตอบคำถาม ! สรุปแล้ว การกินยาคุมนาน ๆ ทำให้มีลูกยากไหม ?

ไม่จริง เพราะยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดจะหมดฤทธิ์เร็ว ทำให้ผู้ที่กินยาไม่ต่อเนื่อง หรือหยุดกินยา กลับมาตกไข่ได้ตามปกติ จึงสามารถตั้งครรภ์ได้ แต่ในบางกรณี คนที่กินยาคุมมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี จนเกิดคำถามว่าจะท้องได้ไหม ต้องตอบว่าแท้จริงแล้ว หากกินยาคุมติดต่อกันเป็นเวลา 5 ปีขึ้นไป อาจส่งผลต่อระบบฮอร์โมนและความสามารถในการเจริญพันธุ์ ซึ่งอาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง ทำให้ส่งผลต่อการมีประจำเดือนหรือการตกไข่ที่น้อยลงได้ ดังนั้น ผู้ที่กินยาคุมต่อเนื่องมานาน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจและรับการรักษาอย่างเหมาะสม แต่โดยทั่วไป เมื่อหยุดกินยาคุม ไข่ก็สามารถตกตามปกติ ดังนั้นการรับประทานยาคุมส่วนใหญ่แล้วก็ไม่น่าจะมีผลให้มีลูกยากขึ้น

เลิกกินยาคุมกี่เดือนท้อง ?

สามารถหยุดยาได้ทันทีเมื่อกินหมดแผง ซึ่งร่างกายจะกลับมามีการตกไข่และสามารถตั้งครรภ์ได้ตามปกติ หากหยุดกินยาคุมเป็นเวลา 1-3 เดือน และผู้หญิงบางคนพอช่วงหยุดยาคุมใหม่ ๆ ไข่อาจจะตกมากกว่าปกติ ทำให้มีโอกาสเกิดลูกแฝดเพิ่มขึ้นได้ แต่เปอร์เซ็นต์ก็ไม่ได้สูงมากนัก โดยอาจมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ สุขภาพ รวมถึงระยะเวลาในการกินยาคุม

ข้อควรระวังในการใช้ยาคุม

ถึงแม้ว่าการใช้ยาคุมแบบเม็ดจะไม่ก่อให้เกิดภาวะมีบุตรยากโดยตรง แต่หากพูดถึงการกินยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ หลายคนอาจสงสัยว่าจะท้องยากไหม ซึ่งตามปกติแล้ว การใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อยจนเกินไปอาจส่งผลให้มีลูกยากหรือเกิดความเสี่ยงขณะตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากยาคุมประเภทนี้จะทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง ทั้งยังจะไปรบกวนกระบวนการสร้างเยื่อบุโพรงมดลูกใหม่ จึงส่งผลต่อการฝังตัวของทารกในครรภ์ ทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่ตัวอ่อนจะฝังตัวนอกมดลูกได้ 

คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการมีลูกหลังกินยาคุมต่อเนื่องหลายปี

ปรึกษาแพทย์

หลังจากได้คำตอบแล้วว่าการกินยาคุมนาน ๆ ทำให้มีลูกยากไหม ? ถึงแม้ว่ายาคุมกำเนิดในหลายรูปแบบ จะไม่มีผลข้างเคียงกับการมีลูกยาก แต่การเตรียมร่างกายให้พร้อมหลังจากกินยาคุมต่อเนื่องหลายปีก็มีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งสิ่งแรกที่ควรทำ คือการเข้าพบแพทย์และแจ้งประวัติการกินยาคุมอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาในการกิน รวมถึงประเภทของยา ควบคู่ไปกับการตรวจสุขภาพโดยรวม จากนั้นแพทย์อาจแนะนำให้ตรวจฮอร์โมน ตรวจเลือด หรือตรวจอัลตราซาวด์เพิ่มเติม เพื่อประเมินภาวะมีบุตรยากและหาทางรักษา หรือวางแผนการมีลูกให้เหมาะสมกับปัญหาในขั้นตอนถัดไป 

ปรับพฤติกรรม

ผู้ที่วางแผนจะมีบุตร ควรปรับพฤติกรรมเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับการตั้งครรภ์ โดยสามารถทำได้เองด้วยวิธีเบื้องต้น ดังนี้

  • ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเน้นผักผลไม้ รวมถึงอาหารที่มีกรดโฟลิก, วิตามินบี 12, สังกะสี และธาตุเหล็ก เนื่องจากเป็นสารอาหารที่เสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงไข่ ช่วยปรับฮอร์โมนให้สมดุล สร้างผนังมดลูกให้แข็งแรง เพื่อให้ผู้ที่เตรียมตัวเป็นคุณแม่ พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากการออกกำลังกายสามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ซึ่งส่งผลดีต่อระบบสืบพันธุ์
  • พักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน เนื่องจากการพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังส่งผลดีต่อระบบฮอร์โมน
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ของทั้งชายและหญิง

การรักษาภาวะมีบุตรยาก

หากหยุดยาคุมแล้ว และได้ลองพยายามตั้งครรภ์ด้วยวิธีธรรมชาติเป็นเวลา 1 ปี แต่ยังไม่สำเร็จ อาจบ่งบอกได้ถึงภาวะมีบุตรยาก ซึ่งควรได้รับการรักษาที่เหมาะสม เช่น

  • ใช้ยากระตุ้นไข่

ยากระตุ้นการตกไข่ เป็นยาที่ใช้กระตุ้นรังไข่ให้ผลิตไข่ที่โตเต็มที่และพร้อมสำหรับการปฏิสนธิมากขึ้น โดยสามารถช่วยกระตุ้นรังไข่ให้ผลิตไข่ที่โตเต็มที่ได้หลายฟอง อีกทั้งยังช่วยให้แพทย์คาดการณ์ช่วงเวลาตกไข่ได้แม่นยำมากขึ้น

  • IVF

IVF เป็นเทคโนโลยีการผสมเทียมในหลอดแก้ว ที่ช่วยการเจริญพันธุ์โดยการนำไข่และอสุจิออกมาผสมกันภายนอกร่างกาย โดยแพทย์จะเก็บไข่ของผู้หญิงและเก็บน้ำเชื้อของผู้ชาย นำมาผสมกันในห้องปฏิบัติการ จากนั้นจะทำการสังเกตการณ์เพื่อคัดเลือกตัวอ่อนที่สมบูรณ์ไปฝังตัวในมดลูก

  • ICSI

ICSI เป็นเทคนิคการฉีดเชื้ออสุจิเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง จึงเหมาะทั้งกับผู้หญิงที่มีปัญหาท่อนำไข่ รวมถึงผู้ชายที่มีปัญหาเกี่ยวกับจำนวนอสุจิ คุณภาพของอสุจิ และภาวะการเคลื่อนที่ของอสุจิ

 

สำหรับคุณผู้หญิงที่กินยาคุมมากว่า 10 ปี และกังวลว่าจะสามารถท้องได้ไหม ? หรือกลัวว่าต้องเผชิญกับภาวะมีบุตรยาก สามารถมาปรึกษากับคุณหมอในการวางแผนครอบครัวได้ตั้งแต่ตอนนี้ และเลือกช่วงเวลาที่อยากมีลูก เพื่อที่จะได้รับคำแนะนำในการเลือกใช้วิธีการคุมกำเนิดที่เหมาะสมได้ที่ ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร VFC Center ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพด้านการมีบุตรยากในระดับสากล พร้อมให้บริการครอบคลุมทั้งการตรวจวินิจฉัย และให้การรักษาด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย

 

บทความโดย แพทย์วรวัฒน์ ศิริปุณย์

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดปรึกษาและวางแผนกับแพทย์ได้ที่

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
โทร. 082-903-2035
Line : @vfccenter
อ่านบทความสุขภาพ : https://www.v-ivf.com/article/

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.