ด้วยปัจจัยต่าง ๆ ในปัจจุบัน ทั้งเรื่องสภาพเศรษฐกิจ ภาระหน้าที่การงาน หรือปัญหาส่วนตัว ทำให้คู่สมรสหลายคู่ยังไม่พร้อมที่จะมีบุตร และเลือกที่จะสร้างรากฐานของครอบครัวให้มั่นคงเสียก่อน แต่รู้ไหมว่าเมื่ออายุมากขึ้น การมีบุตรตามธรรมชาติก็จะยากขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งการตั้งครรภ์ยังอาจส่งผลเสียต่อร่างกายของฝ่ายหญิง รวมถึงทารกในครรภ์ด้วย
ดังนั้น คู่สมรสที่วางแผนไว้ว่าจะมีบุตรเมื่อพร้อม การเข้าโปรแกรมแช่แข็งสเปิร์มและเซลล์ไข่ เป็นทางเลือกที่เหมาะสมเพราะจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการตั้งครรภ์ รวมถึงเพิ่มโอกาสในการมีบุตรได้อย่างที่ใจปรารถนา สำหรับคู่สมรสที่ยังสงสัยว่าอายุเท่าไหร่จึงควรเข้าโปรแกรมแช่แข็งสเปิร์มและเซลล์ไข่ เราจะมาช่วยไขข้อสงสัยให้คุณ พร้อมบอกถึงข้อดีที่ควรรู้ ตามไปรู้พร้อมกันเลย
เมื่ออายุมากขึ้น จะส่งผลกระทบต่อการมีบุตรอย่างไรบ้าง?
ผลกระทบที่เกิดจากฝ่ายชาย
ถึงแม้ร่างกายของฝ่ายชายจะสามารถผลิตอสุจิได้ตลอดชีวิต แต่เมื่อมีอายุมากขึ้น คุณภาพและความแข็งแรงของอสุจิก็จะลดลง ส่งผลให้โอกาสในการมีบุตรตามธรรมชาติน้อยลงไปด้วย
ผลกระทบที่เกิดจากฝ่ายหญิง
การตั้งครรภ์ตอนอายุมาก นับว่ามีความเสี่ยงทั้งคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ รวมไปถึงทารกในครรภ์ โดยภาวะอันตรายที่สามารถพบได้บ่อย แบ่งออกเป็น
ภาวะแท้งบุตร
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ตอนอายุมาก เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแท้งบุตรได้มากกว่าผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
ภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ตอนอายุมาก เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งก่อนตั้งครรภ์ ขณะคลอด รวมถึงระยะหลังคลอด โดยอาการที่พบได้บ่อย ได้แก่
- เบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ เนื่องจากร่างกายนำอินซูลินไปใช้ได้ไม่เต็มที่ จึงอาจทำให้ระบบควบคุมน้ำตาลในเลือดผิดปกติได้
- ครรภ์เป็นพิษ เนื่องจากร่างกายมีภาวะความดันโลหิตสูง
- รกเกาะต่ำ เนื่องจากรกเกาะอยู่ที่ผนังมดลูกส่วนล่าง ซึ่งใกล้กับปากมดลูก เมื่ออยู่ในระยะใกล้คลอด มดลูกจะขยายออกและปริแตก ทำให้เกิดเลือดออกในช่องคลอด เสี่ยงต่อการตกเลือด หรือทำให้ทารกในครรภ์ขาดออกซิเจนได้
- ท้องนอกมดลูก เนื่องจากตัวอ่อนฝังนอกโพรงมดลูก จึงไม่สามารถเจริญเติบโตตามปกติได้
- คลอดก่อนกำหนด ซึ่งโดยปกติแล้วอายุครรภ์จะอยู่ที่ 37 สัปดาห์ แต่เนื่องจากมดลูกมีการบีบตัว ปากมดลูกจึงเปิดก่อนครบกำหนด ทำให้เด็กในครรภ์เจริญเติบโตไม่สมบูรณ์เต็มที่
นอกจากนี้ ทารกในครรภ์ยังเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของโครโมโซม และมีโอกาสเกิดภาวะดาวน์ซินโดรมสูงมากขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ ทารกในครรภ์ยังเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของโครโมโซม และมีโอกาสเกิดภาวะดาวน์ซินโดรมสูงมากขึ้นอีกด้วย
การเข้าโปรแกรมแช่แข็งเซลล์ไข่ คืออะไร?
โปรแกรมแช่แข็งเซลล์ไข่ คือ กระบวนการในการจัดเก็บเซลล์ไข่ด้วยการใช้ความเย็น และเมื่อถึงเวลาที่พร้อมมีบุตร ก็จะนำเซลล์ไข่ออกมาละลาย จากนั้นจะนำไปผสมกับอสุจิ และเลี้ยงเป็นตัวอ่อน ก่อนใส่กลับเข้าสู่โพรงมดลูก เพื่อให้เกิดเป็นการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติต่อไป
การเข้าโปรแกรมแช่แข็งสเปิร์ม คืออะไร?
โปรแกรมแช่แข็งสเปิร์ม คือ กระบวนการในการจัดเก็บอสุจิด้วยการใช้ความเย็น เพื่อเป็นการเก็บรักษาอสุจิให้ยังคงมีชีวิต และสามารถนำมาใช้ในการผสมเทียมหรือใช้ปฏิสนธิกับไข่นอกร่างกายโดยใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ สำหรับคนที่ต้องการตั้งครรภ์เมื่อถึงเวลาที่ต้องการ หรือช่วยเพิ่มโอกาสในการมีบุตร ให้กับคนที่มีภาวะมีบุตรยาก
ข้อดีของการเข้าโปรแกรมแช่แข็งสเปิร์มและเซลล์ไข่
ด้วยการเข้าร่วมโปรแกรมแช่แข็งสเปิร์มและเซลล์ไข่ จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการตั้งครรภ์เมื่อพร้อม และลดโอกาสในการเกิดภาวะเสี่ยงต่าง ๆ ดังที่ได้กล่าวไป นอกจากนี้ การแช่แข็งอสุจิและเซลล์ไข่และตัวอ่อนยังมีข้อดี ดังนี้
- ช่วยให้ตัวอ่อนฝังตัวในมดลูกได้ดีขึ้น เพิ่มโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์
- สามารถวางแผนการฝังตัวอ่อนล่วงหน้าได้ ทำให้ร่างกายมีความพร้อม และอยู่ในภาวะที่เหมาะกับการตั้งครรภ์
- หากไม่ประสบความสำเร็จในครั้งแรก แต่คนไข้ยังมีความตั้งใจที่จะมีบุตร ยังสามารถนำอสุจิและเซลล์ไข่ที่แช่แข็งไว้มาใช้ประโยชน์ได้ เป็นการช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายให้แก่คู่สมรส
โปรแกรมแช่แข็งเซลล์ไข่ เหมาะกับใคร อายุเท่าไหร่ดีที่สุด?
โปรแกรมแช่แข็งเซลล์ไข่ เหมาะสำหรับคู่แต่งงานที่ฝ่ายหญิงมีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป ทั้งยังเหมาะกับ
- ผู้ที่กำลังจะได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด หรือต้องรับยาที่จะมีผลเสียต่อการทำงานของรังไข่
- ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวมีภาวะการเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนก่อนอายุ 40 ปี
- ผู้ที่เข้ารับการรักษาด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว แต่ไม่สามารถเก็บเชื้ออสุจิของฝ่ายชายได้ในวันที่ทำการเก็บไข่
- ผู้หญิงที่ยังไม่มีครอบครัว และมีความต้องการที่จะรักษาการเจริญพันธุ์ไว้สำหรับอนาคต
โปรแกรมแช่แข็งสเปิร์ม เหมาะกับใคร อายุเท่าไหร่ดีที่สุด?
โปรแกรมแช่แข็งสเปิร์ม เหมาะสำหรับคู่แต่งงานที่ฝ่ายชายมีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป ทั้งยังเหมาะกับ
- ผู้ที่ต้องการแช่แข็งอสุจิของตนเองไว้ สำหรับใช้ในการผสมเทียม เพื่อการมีบุตรในอนาคต
- ผู้ที่กำลังจะทำหมันและอยากเก็บอสุจิสำรองไว้ ในกรณีที่ต้องการมีบุตรในอนาคต
- ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วย และจำเป็นต้องรับการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือการรักษาอื่นที่อาจเป็นอันตรายต่ออัณฑะ
- กรณีที่ฝ่ายชายไม่สามารถมาเก็บน้ำเชื้อในวันเดียวกับที่ฝ่ายหญิงจะทำการเก็บไข่ สามารถเก็บน้ำเชื้อแช่แข็งไว้ก่อนได้ เพื่อการนำไปใช้ผสมเทียมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- ผู้มีภาวะหลั่งอสุจิยากหรือมีจำนวนตัวอสุจิน้อยมาก
โปรแกรมแช่แข็งสเปิร์มสามารถเก็บไว้ได้นานเท่าไหร่?
สำหรับการแช่แข็งอสุจิ สามารถเก็บรักษาอสุจิไว้ได้นานเกิน 10 ปี ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้การนำอสุจิที่แช่แข็งไว้มาใช้ผสมเทียมได้ผลสำเร็จ คือ
- อสุจิที่นำมาแช่แข็งมีคุณภาพดี
- ชนิดและความเข้มข้นของสารที่ช่วยป้องกันอสุจิจากการถูกทำลาย
- อุณหภูมิที่ใช้ในการแช่แข็งมีความเหมาะสม
- อุณหภูมิที่ใช้ในการละลายอสุจิก่อนนำไปผสมเทียมมีความเหมาะสม
สำหรับใครที่สนใจใช้บริการแช่แข็งอสุจิและเซลล์ไข่ สามารถเข้าโปรแกรมแช่แข็งสเปิร์มและเซลล์ไข่ได้ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตรยาก ให้บริการด้านการมีบุตรแบบครบวงจร
ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่
VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
Hotline : 082-903-2035
Line : @vfccenter
ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวชวิทยาและเวชศาตร์การเจริญพันธ์ุ
No Comments
Sorry, the comment form is closed at this time.