มีคู่รักหลาย ๆ คู่ ที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ชวนหนักใจ เพราะเกิดภาวะมีลูกยาก ซึ่งถึงแม้จะอยากมีลูกและพยายามด้วยวิธีธรรมชาติมานาน แต่ก็ยังไม่สามารถมีลูกได้อย่างที่ใจหวัง สำหรับคู่รักที่พยายามมีบุตรมาเป็นปีแต่ยังไม่มีสัญญาณใด ๆ เกิดขึ้น มาหาคำตอบเกี่ยวกับความเสี่ยง สาเหตุ และการตรวจหาภาวะมีบุตรยากได้ในบทความนี้กันได้เลย
ภาวะมีบุตรยากคืออะไร ?
ภาวะมีบุตรยากคือภาวะที่คู่รักพยายามมีลูก แต่มีลูกยากและไม่สามารถตั้งครรภ์ได้สำเร็จ แม้จะพยายามมากว่า 1 ปีขึ้นไปด้วยวิธีธรรมชาติ โดยอาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติหรือภาวะสุขภาพของคู่รัก โดยองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้มีการเผยถึงสถิติว่า คู่สมรสที่มีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ โดยที่ไม่มีการคุมกำเนิดสามารถเกิดภาวะมีบุตรยากได้ถึงร้อยละ 15 เลยทีเดียว
ความเสี่ยงภาวะมีบุตรยาก
ภาวะมีลูกยากนั้นสามารถพบได้ในคู่รักทุกช่วงอายุ แต่จะพบได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ในกลุ่มคู่รักที่ฝ่ายหญิงมีอายุมากขึ้นเนื่องจากคุณภาพและปริมาณของไข่จะลดลง โดยความเสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยากนั้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ในผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไป และเพิ่มเป็น 3 เท่าเมื่อฝ่ายหญิงมีอายุ 40 ปีขึ้นไป
นอกเหนือจากอายุแล้ว ภาวะสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคประจำตัว อย่างโรคหัวใจ เบาหวาน ไทรอยด์ และโรคตับ หรือภาวะน้ำหนักมาก หรือต่ำกว่ามาตรฐาน และเรื่องพันธุกรรมจากคนในครอบครัวที่มีบุตรยาก รวมถึงพฤติกรรมเสี่ยงด้านสุขภาพอย่างการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และการเสพสารเสพติด ก็มีผลทำให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยากด้วยเช่นกัน
สาเหตุภาวะมีบุตรยาก
สาเหตุของการมีลูกยากสามารถเกิดได้ทั้งฝ่ายชาย ฝ่ายหญิง หรือทั้งสองฝ่าย ซึ่งอาจเกิดได้จากสาเหตุ ดังนี้
สาเหตุมีลูกยากจากฝ่ายหญิง
ปัญหาการมีลูกยาก สามารถเกิดขึ้นได้จากความผิดปกติของฝ่ายหญิง ซึ่งสาเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ มีดังต่อไปนี้
- ความผิดปกติของฮอร์โมน ส่งผลต่อการตกไข่และการตั้งครรภ์ เช่น ฮอร์โมนเอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน โกนาโดโทรฟิน ฮอร์โมน LH, FSH, CRH, และอื่น ๆ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการทำงานของต่อมไทรอยด์ผิดปกติ ภาวะระดับโปรแลคตินในเลือดสูง (Hyperprolactinemia) มีถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS : Polycystic ovarian syndrome) และภาวะไม่ตกไข่เรื้อรัง (Chronic Anovulation)
- ความผิดปกติของท่อนำไข่ เช่น ท่อนำไข่อุดตัน บิดตัว หรือมีเนื้องอกในท่อนำไข่ เนื่องจากความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ภาวะติดเชื้อในครรภ์หลังคลอด รวมถึงการผ่าตัดช่องท้องและอุ้งเชิงกราน
- ความผิดปกติของมดลูก เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เนื้องอกในมดลูก มดลูกอักเสบ มีติ่งเนื้อหรือก้อนเนื้อในโพรงมดลูก พังผืดในโพรงมดลูก และอื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด หรือเคยผ่านการติดเชื้อและมีการอักเสบมาก่อน
- ความผิดปกติบริเวณปากมดลูก ที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิด หรือเคยมีภาวะปากมดลูกฉีดขาด อักเสบ จนเกิดเป็นพังผืดบริเวณปากมดลูก ซึ่งอาจทำให้อสุจิไม่สามารถเข้าไปผสมกับไข่ได้
สาเหตุมีลูกยากจากฝ่ายชาย
ในส่วนของสาเหตุการมีลูกยากในฝ่ายชาย สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังต่อไปนี้
- ความผิดปกติของอสุจิ ได้แก่
-
- อสุจิไม่แข็งแรง ทำให้ความสามารถในการเคลื่อนที่น้อยกว่าปกติ
- จำนวนอสุจิในน้ำเชื้อน้อยกว่าปกติ
- อสุจิมีรูปร่างผิดปกติทำให้อสุจิไม่สามารถปฏิสนธิกับไข่ได้
- ท่อนำน้ำเชื้ออสุจิตีบตัน เนื่องจากเคยติดเชื้อหรือเกิดการอักเสบ ทำให้อสุจิไม่สามารถเคลื่อนที่ออกมาจากท่อนำน้ำเชื้อได้
- โรคทางพันธุกรรม และภาวะเจริญพันธุ์บางอย่าง ที่ส่งผลต่อการผลิตอสุจิให้ลดน้อยลง หรืออสุจิไม่มีคุณภาพ
- ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนผิดปกติ ทำให้ผลิตอสุจิที่มีคุณภาพได้ลดน้อยลง
การตรวจหาภาวะมีบุตรยาก
การตรวจหาภาวะมีบุตรยากในฝ่ายหญิง
- ประเมินจากความปกติของรอบเดือน
- การตรวจระดับฮอร์โมนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เอสโตรเจน, โปรเจสเตอโรน, FSH, LHและ TSH
- การตรวจการตกไข่ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่นการตรวจอัลตราซาวนด์
- การตรวจความปกติของท่อนำไข่ด้วยการฉีดสีตรวจท่อนำไข่ หรือการส่องกล้องตรวจท่อนำไข่
- การตรวจความปกติในด้านรูปร่าง เนื้องอก และพังผืดในมดลูก โดยการตรวจอัลตราซาวนด์ หรือการส่องกล้องตรวจมดลูก
- การตรวจหาการติดเชื้อ และความผิดปกติอื่น ๆ ของมดลูก
การตรวจหาภาวะมีบุตรยากในฝ่ายชาย
- การตรวจน้ำเชื้อเพื่อตรวจความสมบูรณ์ จำนวน ความแข็งแรง และรูปร่างของอสุจิ
- การตรวจความปกติของฮอร์โมนเพศชายที่ส่งผลต่อการสร้างอสุจิ
- การตรวจอัณฑะเพื่อหาการติดเชื้อหรือความผิดปกติอื่น ๆ เช่น การมีเส้นเลือดขอดที่อัณฑะ เป็นต้น
คู่รักที่มีลูกยาก อยากมีลูกเร็วต้องทำอย่างไร ?
- วางแผนตั้งครรภ์ตั้งแต่ในช่วงอายุที่เหมาะสม
การวางแผนตั้งครรภ์ในช่วงอายุที่เหมาะสมถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้สามารถมีบุตรได้อย่างที่ตั้งใจ โดยเฉพาะผู้หญิงควรวางแผนมีบุตรก่อนอายุ 35 ปี เนื่องจากภาวะเจริญพันธุ์จะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น การเริ่มวางแผนมีบุตรเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงของการมีลูกยากได้
- รู้วิธีนับวันตกไข่
การรู้จักรอบเดือนและช่วงตกไข่ของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ โดยสามารถใช้วิธีนับวันหรือใช้ชุดตรวจ เพื่อระบุวันตกไข่ เนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้จะเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้มากขึ้น
- มีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ
การมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ แนะนำให้มีเพศสัมพันธ์ทุก 2-3 วัน โดยเฉพาะในช่วง 5 วันก่อนและวันที่ตกไข่ควรมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อยวันเว้นวัน
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
สุขภาพที่ดีมีผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดังนี้
-
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ครั้งละประมาณ 30 นาที อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์
- ลดความเครียด ด้วยการทำสมาธิหรือกิจกรรมผ่อนคลาย
- งดหรือลดการบริโภคคาเฟอีน แอลกอฮอล์ และบุหรี่
- ปรึกษาแพทย์
หากพยายามมีบุตรมานานกว่า 1 ปีแล้วยังไม่สำเร็จ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม แต่ในบางกรณีควรปรึกษาเลยเมื่อต้องการมีบุตร ได้แก่ฝ่ายหญิงอายุมากกว่า 40 ปี หรือเคยผ่าตัดรังไข่หรือท่อนำไข่ หรือมีความเสี่ยงอื่น เช่นภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัย แพทย์อาจแนะนำการรักษาต่าง ๆ เช่น การกินยากระตุ้นการตกไข่ หรือเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์อื่น ๆ
ตรวจหา และรักษาภาวะมีลูกยากโดยแพทย์เฉพาะทางที่ VFC Center
สำหรับคู่รักที่กำลังเผชิญหน้ากับภาวะมีลูกยาก และอยากมีลูก สามารถเข้ามาปรึกษากับศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร VFC Center เราพร้อมให้บริการโดยสูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ครอบคลุมทั้งการให้คำปรึกษา ตรวจวินิจฉัย และให้การรักษาคู่สมรสที่เผชิญปัญหามีบุตรยาก รวมถึงคู่สมรสที่ต้องการวางแผนมีลูกน้อยอย่างปลอดภัย
ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่
VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
Hotline : 082-903-2035
Line : @vfccenter
บทความโดย แพทย์วนากานต์ สิงหเสนา
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
No Comments
Sorry, the comment form is closed at this time.