นอกจากความปรารถนาที่จะมีลูกน้อยมาเติมเต็มครอบครัวให้สมบูรณ์แล้ว เชื่อว่าอีกหนึ่งความต้องการของพ่อแม่มือใหม่ทุกคู่ คือการที่ลูกมีสุขภาพแข็งแรงและสมบูรณ์ แต่หากพ่อหรือแม่ เป็น ‘พาหะธาลัสซีเมีย’ จากที่มีความฝันจะได้เห็นลูกน้อยที่สุขภาพดี ก็คงกลายเป็นความกังวลใจ ซึ่งหากใครกำลังเป็นห่วงว่า ถ้าพ่อและแม่เป็นพาหะธาลัสซีเมียจะมีลูกได้ไหม ? และจะมีวิธีป้องกันอย่างไรเพื่อไม่ให้ลูกต้องเกิดมาพร้อมกับโรคที่ส่งผลต่อสุขภาพ ? เราสรุปไว้ให้แล้ว
‘พาหะธาลัสซีเมีย’ อันตรายอย่างไร ? เรื่องที่พ่อแม่มือใหม่ต้องรู้
โรคธาลัสซีเมีย หรือโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย (Thalassemia) คือโรคที่เกิดจากความผิดปกติในการสังเคราะห์ฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) โปรตีนสำคัญในเม็ดเลือดแดงซึ่งทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนจากปอดไปยังอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย แต่เมื่อฮีโมโกลบินมีปริมาณน้อยก็จะทำให้เกิดภาวะเลือดจางเรื้อรัง ส่งผลให้ความสามารถในการลำเลียงออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงร่างกายลดลง จนทำให้ผู้ป่วยมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และตัวเหลือง แต่บางรายอาจไม่มีอาการเลยรวมทั้งไม่มีภาวะซีด
โรคธาลัสซีเมียเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ไปสู่ลูก ผู้ที่มียีนแฝง (พาหะ) คือ บุคคลที่มีลักษณะและสุขภาพดี แต่สามารถถ่ายทอดโรคนี้ต่อให้ลูกได้ ดังนั้นหากพ่อหรือแม่เป็นโรคธาลัสซีเมีย หรือเป็นพาหะธาลัสซีเมีย ก็มีโอกาสที่จะส่งต่อโรคทางพันธุกรรมนี้ไปสู่ลูกน้อยได้ โดยมีอัตราเสี่ยงดังนี้
- พ่อและแม่เป็นโรคธาลัสซีเมียทั้งคู่ มีโอกาสที่ลูกจะเป็นโรคธาลัสซีเมีย 100%
- พ่อและแม่เป็นพาหะธาลัสซีเมียทั้งคู่ มีโอกาสที่ลูกจะเป็นพาหะธาลัสซีเมีย 50% , มีโอกาสที่จะปกติ 25% และมีโอกาสที่ลูกจะเป็นโรคอีก 25%
- พ่อหรือแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นโรคธาลัสซีเมีย และอีกฝ่ายปกติ มีโอกาสที่ลูกจะเป็นพาหะธาลัสซีเมีย 100% แต่จะไม่เป็นโรคธาลัสซีเมียเอง
- พ่อหรือแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นโรคธาลัสซีเมีย และอีกฝ่ายเป็นพาหะ มีโอกาสที่ลูกจะเป็นโรคธาลัสซีเมีย 50% และเป็นพาหะ 50%
- พ่อหรือแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นพาหะธาลัสซีเมีย และอีกฝ่ายปกติ มีโอกาสที่ลูกจะเป็นพาหะธาลัสซีเมีย 50% และมีโอกาสที่จะปกติ 50%
สัญญาณเสี่ยงต่อการเป็นพาหะธาลัสซีเมีย มีวิธีเช็กอย่างไร ?
สำหรับว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ที่สงสัยว่าตนเองหรือคู่ครองเป็นโรคธาลัสซีเมีย และกังวลว่าจะมีลูกได้ไหม ต้องบอกว่าในปัจจุบันมีวิธีการตรวจคัดกรอง ซึ่งจะช่วยให้รู้ถึงสัญญาณเสี่ยงโรคธาลัสซีเมีย และวางแผนการมีลูกได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย
วิธีตรวจคัดกรองธาลัสซีเมีย
- ตรวจคัดกรองเบื้องต้น (Screening Test) เป็นการตรวจเลือดเพื่อดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด รวมถึงตรวจดูขนาด และดูว่ามีความมผิดปกติหรือไม่
- ตรวจชนิดของฮีโมโกลบิน (Hemoglobin Typing) เป็นการตรวจเลือดเพื่อหาชนิดของฮีโมโกลบินที่ละเอียดขึ้น เพื่อดูว่ามีฮีโมโกลบินชนิดใดที่ขาดไป ซึ่งฮีโมโกลบินจะแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดหลัก คือ อัลฟา (Alpha) และเบต้า (Beta)
- ตรวจดีเอ็นเอ (DNA Analysis) เป็นการตรวจสารพันธุกรรม เพื่อหาพาหะธาลัสซีเมียที่มีความเฉพาะเจาะจงมากกว่า วิธีนี้สามารถบอกได้ว่าเป็นพาหะธาลัสซีเมียชนิดอัลฟาหรือเบต้า และยังสามารถบอกความรุนแรงของโรคได้อีกด้วย
สัญญาณเสี่ยงของโรคธาลัสซีเมีย
- ขนาดเม็ดเลือดแดงตัวเล็กกว่าปกติ ผู้ที่เป็นพาหะหรือผู้ป่วยธาลัสซีเมียมักมีเม็ดเลือดแดงขนาดเล็กกว่าคนปกติ โดยขนาดของเม็ดเลือดแดงในคนปกติควรมีค่า MCV อยู่ที่ 80-100
- โลหิตจางชนิดไม่รุนแรง โดยผู้ที่เป็นพาหะธาลัสซีเมีย จะมีความเข้มข้นของเลือดต่ำกว่าคนปกติ และอาจพบอาการผิวซีด ตัวเหลือง เหนื่อยง่ายร่วมด้วย
ดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อเป็นธาลัสซีเมีย
การรักษาธาลัสซีเมียจะขึ้นอยู่กับชนิดและระดับความรุนแรงของโรค โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาแนวทางในการรักษา ซึ่งหากใครที่เป็นธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง จะต้องเข้ารับการรักษาและมีการติดตามอาการเป็นระยะ แต่สำหรับผู้ที่เป็นพาหะธาลัสซีเมีย สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ด้วยการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ด้วยวิธีการเหล่านี้
- การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยหลีกเลี่ยงอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอตามความเหมาะสม
- หลีกเลี่ยงการทำงานหนักและการออกกำลังกายอย่างหักโหม
- ตรวจสุขภาพประจำปีอย่างต่อเนื่อง
- เข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน
- เข้ารับการตรวจคัดกรองก่อนแต่งงาน เพื่อวางแผนมีลูกอย่างปลอดภัย และป้องกันการส่งต่อพาหะธาลัสซีเมียไปยังลูกหลาน
ยับยั้งการส่งต่อโรคทางพันธุกรรม ด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว
เนื่องจากธาลัสซีเมียเป็นโรคที่ไม่แสดงอาการ กว่าจะรู้ตัวก็อาจไปถึงขั้นตอนตรวจเลือดเพื่อฝากครรภ์ ซึ่งปัญหานี้อาจทำให้พ่อแม่มือใหม่กังวลว่า ถ้าเป็นพาหะธาลัสซีเมียจะมีลูกได้ไหม ? คำตอบก็คือ สามารถมีได้ แต่จะต้องทำการตรวจคัดกรองตั้งแต่ก่อนวางแผนตั้งครรภ์ อย่างที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้น เพื่อให้แพทย์พิจารณาว่าเป็นพาหะที่รุนแรงหรือไม่ มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนกับการตั้งครรภ์
แต่ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า ในปัจจุบันนี้จึงมีวิธีที่จะช่วยยับยั้งการส่งต่อโรคทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ไปสู่รุ่นลูกได้ นั่นก็คือ ‘การทำเด็กหลอดแก้ว‘ ร่วมกับ ‘การตรวจโครโมโซมตัวอ่อน’ เพื่อหาความผิดปกติในระดับยีน ก่อนนำไปฝังในครรภ์ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้โรคธาลัสซีเมียถ่ายทอดไปถึงลูกน้อย
เตรียมความพร้อมสู่การตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์ ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ VFC Center
จบความกังวลที่ว่า เป็นพาหะธาลัสซีเมียมีลูกได้ไหม ด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว และการตรวจโครโมโซมตัวอ่อน ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตรที่ให้บริการโดยสูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ครอบคลุมทั้งการให้คำปรึกษา ตรวจวินิจฉัย และให้การรักษาคู่สมรสที่เผชิญปัญหามีบุตรยาก และคู่สมรสที่ต้องการวางแผนมีลูกน้อยอย่างปลอดภัย
ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่
VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
Hotline : 082-903-2035
Line : @vfccenter
ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวชวิทยาและเวชศาตร์การเจริญพันธ์ุ
No Comments
Sorry, the comment form is closed at this time.