เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

ตอบข้อสงสัย! เป็นมะเร็งแต่อยากมีลูก ต้องทำอย่างไร ?

ผู้หญิงกำลังกังวลเพราะเป็นมะเร็งแต่อยากมีลูก

สำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย อาจมีเรื่องกังวลใจหลายเรื่อง โดยเฉพาะคนที่อยากมีลูก เพราะไม่แน่ใจว่าการเป็นมะเร็งมีลูกได้ไหม เพื่อช่วยให้รู้สึกเบาใจขึ้น คงต้องบอกว่าด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ในปัจจุบัน สามารถช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้แก่ผู้ที่ป่วยโรคมะเร็งได้ แต่ก็ควรได้รับการดูแลจากคลินิกรักษาผู้มีบุตรยากควบคู่กันไป เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จในการตั้งครรภ์ในอนาคต

โรคมะเร็งส่งผลให้มีลูกยากได้อย่างไร ?

โรคมะเร็งเป็นโรคร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้ป่วยในหลายด้าน หนึ่งในนั้นคือความสามารถในการมีบุตร โดยมีสาเหตุหลักมาจาก 2 ปัจจัย คือ

มีลูกยากเนื่องจากอาการของโรคมะเร็ง

ภาวะการมีลูกยากที่มีผลมาจากอาการของโรคมะเร็ง สามารถแบ่งออกได้ ดังนี้

  • ความผิดปกติของอวัยวะสืบพันธุ์ เพราะโรคมะเร็งบางชนิดเกิดขึ้นในอวัยวะสืบพันธุ์โดยตรง เช่น มะเร็งรังไข่ มะเร็งมดลูก หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก ก่อให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะที่เกี่ยวข้อง รวมถึงส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของระบบสืบพันธุ์อีกด้วย
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เนื่องจากมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งรังไข่ และมะเร็งเต้านม จะส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนเพศ ซึ่งมีความสำคัญต่อกระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์และการตั้งครรภ์ 

มีลูกยากเนื่องจากการรักษาโรคมะเร็ง

ผลจากการรักษาโรคมะเร็ง ที่กระทบต่อการมีบุตร มีสาเหตุ ดังนี้

  • เคมีบำบัด โดยยาเคมีบำบัดจะออกฤทธิ์ทำลายเซลล์มะเร็ง แต่ในขณะเดียวกันก็อาจทำลายเซลล์ปกติ เช่น เซลล์ไข่และเซลล์สเปิร์ม ทำให้การสร้างเซลล์สืบพันธุ์ลดลงหรือหยุดชะงัก
  • รังสีบำบัด เนื่องจากการฉายรังสีส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะสืบพันธุ์และลดโอกาสในการตั้งครรภ์
  • การผ่าตัด เพื่อเอาชิ้นเนื้อหรืออวัยวะที่เป็นมะเร็งออก อาจส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะสืบพันธุ์โดยตรง เช่น การผ่าตัดเอาอัณฑะออกในผู้ชาย หรือการผ่าตัดมดลูกในผู้หญิง

การฝากไข่ช่วยรักษาภาวะเจริญพันธุ์ผู้หญิงเป็นมะเร็งแต่อยากมีลูก

เป็นมะเร็งแต่อยากมีลูกต้องทำอย่างไร ?

เนื่องจากกระบวนการรักษาโรคมะเร็งจะส่งผลให้ทำเซลล์ไข่ของฝ่ายหญิง รวมถึงเซลล์อสุจิของฝ่ายชาย ไม่แข็งแรงได้ ดังนั้นคู่แต่งงานที่วางแผนจะมีลูก หากพบว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งป่วยด้วยโรคมะเร็ง จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการรักษาภาวะผู้มีบุตรยาก ก่อนเข้ารับการรักษาโรคมะเร็ง เพื่อดำเนินการเก็บรักษาภาวะการเจริญพันธุ์ (Fertility Preservation) ดังนี้ 

การฝากไข่

การฝากไข่หรือการแช่แข็งไข่ เป็นกระบวนการที่ช่วยรักษาภาวะเจริญพันธุ์สำหรับฝ่ายหญิงที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาโรคมะเร็ง โดยมีขั้นตอนเหล่านี้

  • แพทย์จะให้ยากระตุ้นรังไข่ เพื่อให้ไข่ตก โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 10-12 วัน 
  • หลังจากการกระตุ้นไข่จนสร้างไข่ได้หลายฟอง แพทย์จะทำการอัลตราซาวนด์ เพื่อดูว่าการเจริญเติบโตของไข่เป็นไปตามระยะที่เหมาะสมหรือไม่ 
  • เมื่อไข่เจริญเติบโตเต็มที่ แพทย์จะทำการเก็บไข่ ด้วยการส่องกล้องแล้วดูดไข่ออกจากรังไข่
  • ไข่ที่เก็บได้จะถูกนำไปเก็บรักษาไว้ในไนโตรเจนเหลว ที่อุณหภูมิติดลบ จนกว่าจะพร้อมนำออกมาเพื่อทำการปฏิสนธิต่อไป

การฝากอสุจิ

ในส่วนของกระบวนการที่ช่วยรักษาภาวะเจริญพันธุ์สำหรับฝ่ายชายที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาโรคมะเร็ง คือการฝากอสุจิหรือการแช่แข็งอสุจิ โดยเป็นไปตามขั้นตอนเหล่านี้

  • แพทย์จะให้ผู้ชายเก็บตัวอย่างอสุจิ ใส่ในภาชนะบรรจุน้ำเชื้ออสุจิ
  • หลังจากนั้นแพทย์จะนำตัวอย่างอสุจิที่ได้ไปตรวจสอบคุณภาพ ทั้งในด้านของปริมาณ จำนวน การเคลื่อนไหว และรูปร่าง
  • อสุจิที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว จะถูกนำไปแช่แข็งด้วยเทคนิคพิเศษในไนโตรเจนเหลว ที่อุณหภูมิติดลบ เพื่อรักษาคุณภาพ เพื่อรอการนำมาปฏิสนธิต่อไป

เหตุผลที่ควรเลือกบริการฝากไข่และฝากอสุจิที่  VFC Center

ให้คำปรึกษาและวางแนวทางการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากของ VFC Center มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากมาอย่างยาวนาน จึงพร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนการรักษาที่ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคล 

ด้วยขั้นตอนเก็บไข่และอสุจิ เพื่อช่วยรักษาคุณภาพไว้ให้ดีที่สุด

VFC Center ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการเก็บไข่และอสุจิ เพื่อให้ได้ตัวอย่างที่มีคุณภาพ อีกทั้งทุกขั้นตอนของการเก็บรักษาไข่และอสุจิ ยังมีการควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าตัวอย่างที่เก็บรักษาไว้จะมีประสิทธิภาพ และเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์สูงสุด

มีเทคโนโลยีทันสมัยในการเก็บรักษาไข่และอสุจิ

ห้องปฏิบัติการของ VFC Center ได้รับการออกแบบมาให้มีความสะอาด ปราศจากเชื้อ และมีอุปกรณ์ที่ทันสมัย เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของตัวอย่าง อีกทั้งยังใช้ระบบแช่แข็งที่ได้มาตรฐาน เพื่อรักษาคุณภาพของไข่และอสุจิให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด 

ทั้งหมดนี้คงทำให้เข้าใจมากขึ้นแล้วว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็งมีลูกได้ไหม ? และต้องทำอย่างไร ? ซึ่งสำหรับคู่แต่งงานที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นมะเร็งแต่อยากมีลูก และต้องการใช้บริการฝากไข่หรือฝากอสุจิ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยที่ เบอร์โทรศัพท์ 082-903-2035

 

บทความโดย แพทย์วรวัฒน์ ศิริปุณย์

ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร

Hotline: 082-903-2035

LINE Official: @vfccenter

ข้อมูลอ้างอิง:

“เป็นมะเร็งก็มีลูกได้” บริการด้านการรักษาภาวะการเจริญพันธุ์ในผู้ป่วยมะเร็ง. สืบค้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2567 จาก https://redcross.or.th/news/information/6670/

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.