เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

กรดโฟลิกกับการตั้งครรภ์ : ประโยชน์ที่คุณแม่ต้องรู้

กรดโฟลิกมีประโยชน์สำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์

การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่คุณแม่ต้องใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเองเป็นพิเศษ ซึ่งหนึ่งในสารอาหารสำคัญที่มีบทบาทต่อสุขภาพของคุณแม่และพัฒนาการของทารกในครรภ์ก็คือ กรดโฟลิก (Folic Acid) อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า กรดโฟลิกคืออะไร และมีความจำเป็นต่อการตั้งครรภ์เพียงใด เพื่อช่วยให้คุณแม่ดูแลสุขภาพของตนเองและลูกน้อย เราจะพาไปทำความเข้าใจถึงประโยชน์ของสารอาหารชนิดนี้ ว่าหากได้รับอย่างเพียงพอจะส่งผลต่อคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างไรบ้าง 

กรดโฟลิกคืออะไร?

กรดโฟลิก (Folic Acid) คือสารอาหารในกลุ่มวิตามินบี หรือที่เรียกว่า วิตามินบี 9 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในกระบวนการสร้างเซลล์ใหม่ในร่างกาย โดยเฉพาะเซลล์เม็ดเลือดแดงและเซลล์ระบบประสาท กรดโฟลิกจำเป็นต่อการทำงานของ DNA และ RNA รวมถึงมีส่วนช่วยในการแบ่งเซลล์และการเจริญเติบโตของเซลล์ในร่างกาย

กรดโฟลิกมีประโยชน์ต่อคุณแม่และทารกในครรภ์อย่างไร ?

ประโยชน์ต่อทารกในครรภ์

กรดโฟลิกเป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบประสาทและสมองของทารก โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นระยะที่เซลล์ต่าง ๆ กำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว การได้รับกรดโฟลิกในปริมาณที่เพียงพอจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงของภาวะผิดปกติแต่กำเนิดได้ เช่น

  • ป้องกันและลดความผิดปกติของระบบประสาท ทั้งภาวะไม่มีเนื้อสมอง ภาวะไขสันหลังไม่ปิดจากการขาดโฟลิก
  • ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบไหลเวียนเลือดของทารก
  • ลดโอกาสเกิดความผิดปกติของแขนขา ทำให้พัฒนาการด้านโครงสร้างร่างกายเป็นไปอย่างสมบูรณ์
  • ป้องกันการเกิดปากแหว่งเพดานโหว่ได้ประมาณ 1 ใน 3 ของกรณีที่เกิดขึ้น
  • ช่วยป้องกันความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ และโรคไม่มีรูทวารหนัก (Imperforate Anus)

ประโยชน์ต่อคุณแม่ตั้งครรภ์

นอกจากประโยชน์ต่อทารกแล้ว กรดโฟลิกยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์ด้วย

  • ลดความเสี่ยงของภาวะโลหิตจาง โดยทำงานร่วมกับธาตุเหล็กในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง
  • ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ เช่น ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด ภาวะแท้งบุตร และภาวะครรภ์เป็นพิษ
  • ช่วยให้รกทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งเสริมการลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารไปสู่ทารก
  • สนับสนุนการเจริญเติบโตของมดลูก ให้สามารถขยายตัวรองรับทารกที่กำลังเติบโต

ปริมาณวิตามินโฟลิกแบบเม็ดที่ควรรับประทาน เพื่อประโยชน์ต่อการตั้งครรภ์

การได้รับกรดโฟลิกในปริมาณที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับหญิงตั้งครรภ์ โดยคำแนะนำในการรับประทานกรดโฟลิกมีดังนี้

  • หญิงตั้งครรภ์ทั่วไป : ควรได้รับกรดโฟลิกอย่างน้อย 0.4 มิลลิกรัม (400 ไมโครกรัม) ต่อวัน โดยเริ่มรับประทานก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 1 เดือน และต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
  • หญิงตั้งครรภ์ที่มีประวัติบุตรพิการแต่กำเนิด : ควรได้รับกรดโฟลิกในปริมาณที่สูงขึ้น คือ 4 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 10 เท่าจากปริมาณปกติ โดยควรเริ่มรับประทานก่อนตั้งครรภ์ 1-3 เดือน
  • หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่วางแผนตั้งครรภ์ : ควรรับประทานวิตามินโฟลิกชนิดเม็ด ขนาด 5 มิลลิกรัมต่อสัปดาห์ เพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายก่อนการตั้งครรภ์

การรับประทานกรดโฟลิกก่อนตั้งครรภ์มีความสำคัญมาก เนื่องจากหลายคนอาจไม่รู้ว่าตนเองตั้งครรภ์ในช่วงแรก ซึ่งเป็นช่วงสำคัญที่ระบบประสาทของทารกกำลังพัฒนา

แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยกรดโฟลิกคนท้อง

นอกจากการรับประทานวิตามินเสริม ยังสามารถเพิ่มปริมาณกรดโฟลิกได้จากอาหารหลากหลายชนิด ดังนี้

  • ผักใบเขียวเป็นแหล่งโฟเลตที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะ ผักโขม คะน้า บรอกโคลี ผักกาดขาว และผักใบเขียวเข้มอื่น ๆ การรับประทานผักเหล่านี้เป็นประจำจะช่วยเพิ่มปริมาณโฟเลตในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ธัญพืชเสริมวิตามิน เช่น ขนมปังโฮลวีต ข้าวโอ๊ต และซีเรียลเสริมวิตามิน เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ
  • ถั่วและเมล็ดพืชหลายชนิดอุดมไปด้วยโฟเลต เช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วลันเตา ถั่วเหลือง เมล็ดทานตะวัน และเมล็ดแฟลกซ์
  • ผลไม้บางชนิดมีโฟเลตในปริมาณที่ดี เช่น อะโวคาโด ส้ม ส้มโอ กล้วย และเบอร์รีชนิดต่าง ๆ

โปรตีนจากสัตว์บางชนิดก็มีโฟเลต เช่น ไข่แดง ตับ และปลาแซลมอน

คุณแม่ตั้งครรภ์ กำลังรับประทานอาหารที่มีกรดโฟลิกสำหรับคนท้อง

กรดโฟลิกสำหรับผู้วางแผนตั้งครรภ์

สำหรับคู่สมรสที่วางแผนมีบุตร การเตรียมความพร้อมด้านโภชนาการ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีกรดโฟลิกอย่างเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญ โดยควรเริ่มก่อนการตั้งครรภ์อย่างน้อย 1 เดือน และควรรับประทานต่อเนื่องไปตลอดการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก

นอกจากการรับประทานกรดโฟลิก การรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน รวมถึงการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์ ก็เป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมความพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์เช่นกัน 

สำหรับคู่รักที่ดูแลร่างกายเป็นอย่างดี แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จกับการมีลูกด้วยวิธีทางธรรมชาติ สามารถมาตรวจภาวะมีบุตรยาก และวางแผนการรักษา เพื่อเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้ที่ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) ศูนย์เฉพาะทางด้านการรักษาภาวะมีบุตรยาก ที่ได้รับการรับรองจากราชวิทยาลัยสูตินรีเวชแห่งประเทศไทย เป็นศูนย์ผู้มีบุตรยากที่ได้รับความไว้วางใจจากคู่สมรสจำนวนมาก เรายินดีให้คำปรึกษาและดูแลคุณอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การวางแผนตั้งครรภ์ดำเนินไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ

 

บทความโดย นายแพทย์วรวัฒน์ ศิริปุณย์

ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่ 

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร 

Hotline: 082-903-2035 

LINE Official: @vfccenter

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.